ต้องบอกว่า Facebook ฉลาดมาก เวลาลูกค้าสนใจสินค้าอะไร ระบบก็นำสินค้าที่มีลักษณะเดียวกัน เอามาให้ลูกค้าดูเป็นตัวเลือก ในมุมมองของลูกค้าในนั้นก็ว่าดี แต่ในมุมมองของคนทำธุรกิจ ก็ถือว่าหายนะ เพราะว่าถ้าเกิดว่าเราขายเสื้อผ้าแฟชั่นเหมือนกัน ลูกค้ากำลังดูโฆษณาของเพจเราอยู่ ระบบก็จะนำเพจของคู่แข่งที่มีระดับราคา และสินค้าที่ใกล้เคียงกันเอามาให้ลูกค้าดู พอลูกค้าเห็นตัวเปรียบเทียบ ตอนที่เห็นราคาถูกกว่าเขาก็ไป พอดีเห็นของน่าสนใจกว่าเขาจะไป บางทีเห็นรูปเดียวกันแล้วเขาก็จะเกิดความสับสนร้านไหนดี ร้านไหนของดี ร้านไหนถูกใจ พอเขาต้องเลือกสรุปไม่ซื้อสักร้าน ไม่เป็นผลดีกับใครเลย ดังนั้นวันนี้เรามีวิธีในการตั้งค่าไม่ให้ Algorithm ตัวนี้ทำงาน
วิธีที่1 : วิธีการตั้งค่าเพจ ปิดกั้นคู่แข่ง ดังนี้
1. ไปที่หน้าจัดการเพจ >> เลือกเมนูการตั้งค่า
2. ขวามือเลือก>> การแนะนำเพจที่คล้ายกัน
- ติกถูกออก
- กดบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ค่ามาตรฐานเริ่มต้น ระบบจะติกถูกไว้ให้ก่อน เป็นการรวมเพจ ในการแนะนำเพจที่คล้ายกัน
ลองเอาเม้าส์ไปชี้ที่รูป [ ?] Facebook จะอธิบายว่า ” เราอาจแนะนำเพจของคุณให้กับคนที่เข้าไปเยี่ยมชมเพจอื่นๆ ที่คล้ายกับเพจของคุณ และเราก็จะแนะนำเพจเหล่านั้นบนเพจของคุณด้วย ”
ประเด็นที่น่ากังวลคือ ระบบจะแนะนำเพจอื่นๆ มาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าด้วย กรณีที่ลูกค้าเข้ามาดูเพจเรา สนใจสินค้าของเรา ในประเภทสินค้าและบริการเหมือนกัน หรือ คล้ายคลึงกัน รวมถึง ราคา หรือ โปรโมชั้น ที่เหมือนกัน หรือ คล้ายคลึงกัน
สิ่งที่ผู้ขายต้องการคือ เราต้องการยิงโฆษณาไปหาลูกค้า โดยที่ Algorithm ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว เวลาเรายิงโฆษณาลูกค้าต้องเห็น Content และสินค้าของเราเท่านั้น การที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือไม่ จะเป็นการติดสินใจระหว่างลูกค้ากับ โพสของเรา คอนเทนต์ของเรา คู่แข่งไม่ต้องเข้ามานำเสนอเป็นตัวเปรียบเทียบ
ดั้งนั้น การติกถูกออกในหัวข้อ การแนะนำเพจที่คล้ายกัน แล้วกดบันทึก (ตามรูปภาพด้านบน) ทุกอย่างจบ ไม่มีการแนะนำ ฟังก์ชั่นตัวนี้ ก็จะหยุดทำงานจากเพจเราทันที
หมดปัญหาคล้ายกังวลว่า คู่แข่งจะยิงโพสโฆษณาตัดราคาเราอีกต่อไป
วิธีที่ 2 เทคนิคการกรองคู่แข่ง เพื่อไม่ให้คู่แข่งเห็นโฆษณาเราใน Facebook Ads
- เข้าไปที่หน้า Page Facebook กดเลือก ตัวจัดการโฆษณา
2. กดสร้างโฆษณา
เวลาเราจะสร้าง โฆษณา 1 เคมเปญ เราต้องเลือกวัตถุประสงค์เคมเปญ 1 ตัวเลือก ขัันตอนต่อไปใส่งบ สำหรับยิงโฆษณา เป็นขั้นตอนปกติ ของการตั้งค่าแคมเปญ และการตั้งค่าวัตถุประสงค์
3.เข้ามาสู่ในหน้าชุดโฆษณา มากำหนดหัวข้อ ตัวกรองกลุ่มเป้าหมาย โดยเลือก” ไม่รวม ผู้ดูแลเพจ ” เลือก ไม่รวมผู้ดูแลเพจ ประเภทธุรกิจ หรือ หมวดหมู่ธุรกิจเดียวกับเรา หรือหากไม่มีเฉพาะเจาะจง ก็ต้องวิเคราะห์และตัดสินใจดูว่า หากเลือก “ไม่รวมผู้ดูแลเพจ Facebook ทั้งหมด จะอยู่ในหมวดหมู่กลุ่มลูกค้าของเราหรือไม่ ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็สามารถเลือกได้เลย แต่ถ้ากระทบ ทางเราก็ไม่แนะนำให้เลือก
ตัวอย่างเช่น : ทางเราทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร การที่จะตั้งค่าตัวกรองไม่ให้ คู่แข่งร้านอาหารอื่นเห็นเพจเรา และดำเนินการตัดราคา หรือ เสนอโปรโมชั่นที่ดีกว่า หรือ Copy คอนเทนด์ของเรา ก็สามารถกรองโดยการ เลือก ไม่รวมผู้ดูแลเพจอาหารและร้านอาหาร เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคู่แข่ง มากกว่าเป็นจะลูกค้าของร้านอาหารเรา
สรุปได้ก็คือ หลังตั้งค่า ไม่รวมผู้ดูแลเพจ ธุรกิจประเภทเดียวกันแล้ว แอดจะวิ่งไปหาลูกค้าที่กำลังสนใจเกี่ยวกับร้านอาหาร แอดจะไม่วิ่งไปหาผู้ดูแลเพจร้านอาหาร ผู้ดูแลเพจร้านอาหารไม่เห็นแอดของเรา เป็นวิฺธีการกรองคู่แข่งออกไปได้ง่ายๆเลย
Block "footer-article" not found